รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย กอ.รมน. ลงพื้นที่พบปะให้กำลังใจนางสุมาลี ขวัญเสือ (น้องสาวของปู่) ของพลทหาร วายุ ขวัญเสือ อายุ 21 ปี ลูกหลานชาวตำบลวังสำโรง อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร

เช้าวันที่ 10 ธันวาคม 2568 รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย  กอ.รมน. ลงพื้นที่พบปะให้กำลังใจนางสุมาลี ขวัญเสือ (น้องสาวของปู่) ของพลทหาร วายุ ขวัญเสือ อายุ 21 ปี ลูกหลานชาวตำบลวังสำโรง อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ทหารกล้าผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องชายแดนไทย–กัมพูชา ด้วยความกล้าหาญ   ส่วนพลทหาร วายุ ขวัญเสือสังกัดพัน.ร.27/ร.31พัน.3รอ.ตำแหน่งในสนาม พลยิง ปลก. พัน.ร.27 ซึ่งได้ พลีชีพในสมรภูมิการปะทะระหว่าง ทหารไทยกับกัมพูชา ที่ปราสาทตาควาย เคยได้รับบาดเจ็บจากการปะทะเมื่อเดือนกรกฎาคม2568และได้รับการรักษาจนหายก่อนกลับเข้าประจำการและออกปฏิบัติภารกิจรับใช้ชาติในแนวหน้าอีกครั้ง เมื่อช่วงเช้า 9ธ.ค.2568 ได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิดแขนขวาขาด นำส่งโรงพยาบาลพนมดงรักและเสียชีวิตเมื่อเวลา09.04น.ส่วนนางสุมาลี ขวัญเสือ (น้องสาวของปู่) พล ทหาร วายุ ขวัญเสือ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ครอบครัว พล.ทหารได้ย้ายไปทำมาหากินขายน้ำผลไม้รถเล่ ที่ จ.ปทุมธานี ตั้งแต่ พลทหารวายุ ขวัญสือ ยังเล็กๆอยู่ 1ปีจะกลับมาเที่ยวที่พิจิตรสักครั้ง ส่วนตัว ของนางสุมาลี ขวัญเสือ จะไม่ค่อยรู้เรื่องส่วนตัว ของ พล.วายุไม่มากเท่าไรแล้ว นาง สุมาลี ยังได้ต่อโทรศัพท์ให้ นายกิติพล เวชกุลรองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พูดคุยให้กำลังใจกับแม่ของพลทหารวายุฯ ทราบว่า ครอบครัวของพลทหารวายุ ทั้งพ่อ แม่ ปู่ ย่า ได้ย้ายครอบครัวไปอยู่ที่จังหวัดปทุมธานีมากกว่า 10 ปีแล้ว ทั้งนี้ ทางครอบครัวกำหนดตั้งศพและจัดพิธีฌาปนกิจ ณ วัดสว่างภพ ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

อู๊ดวิศว  พิจิตร รายงาน