ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานภาค 3 ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและพายุฝนในพื้นที่อำเภอทองแสนขัน และ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานภาค 3 ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและพายุฝนในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ โดย จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ดำเนินการตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์  ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์  อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ในการประสานการปฏิบัติ ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ จาก พายุ "บัวลอย" โดยมี นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์  นายพชรเสฎฐ์ บุญศิริสาริศา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย นางสาวชาครียา เศรษฐเสรี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วยส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมวางแผนการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์อย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ สำนักงานปภ.จังหวัดอุตรดิตถ์ จัดเจ้าหน้าที่ ออกให้ความช่วยเหลือและ ประสานรับเรื่อง ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568  เวลา 05.00 น.เนื่องจากอิทธิพลจากพายุบัวลอยเกิดฝนตกหนักในพื้นที่  อำเภอน้ำปาด ได้รับผลกระทบ บริเวณตำบลน้ำไผ่ หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 7แจ้งอพยพแล้ว รวมถึงเกิดดินสไลด์บริเวณถนน พื้นที่หมู่ที่ 7 - หมู่ที่ 5  ส่งผลทำให้ถนนถูกตัดขาด พื้นที่ หมู่ที่ 5 และ หมู่ที่ 6   ตลอดจนส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลน้ำไคร้ อำเภอน้ำปาด   จังหวัดอุตรดิตถ์  ได้รับผลกระทบในพื้นที่ประมาณ 30 ครัวเรือน อยู่ระหว่างอพยพ  ฝ่ายปกครองอำเภอน้ำปาด   และผู้นำท้องที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งฝนตกหนักพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์เฉลี่ยเกิน 100 มิลลิเมตร ส่งผลให้น้ำไหลล้นสปิลเวย์คลองตรอนมากกว่า 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ผ่านฝายคลองตรอนมากกว่า 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีอยู่ในสภาวะวิกฤต(สีแดง) เกิดน้ำท่วมที่อำเภอทองแสนขัน และ ปริมาณน้ำในคลองสิงห์ สูงอยู่ในสภาวะวิกฤต(สีแดง)เกิดน้ำท่วมบริเวณริมคลองสิงห์ อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์  รวมถึงปริมาณน้ำผ่านฝายน้ำปาด เกิน 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีอยู่ในสภาวะเฝ้าระวัง นอกจากนี้เมื่อ เวลา 08.25 น. ในพื้นที่บ้านห้วยแมง  อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ เกิดน้ำท่วมหนัก บริเวณใต้เขื่อนคลองตรอน ทำให้บ้านเรือนประชาชนเกิดน้ำท่วมบริเวณชั้น 1 ชาวบ้านติดค้างในพื้นที่ ไม่มีอาหาร และเดินทางออกมาไม่ได้ ต่อมา เวลา 09.00 น.ฝายประชารัฐห้วยพังงา หมู่ที่ 2  บ้านห้วยเดื่อ ตำบลน้ำไผ่  อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ น้ำเริ่มล้นสันฝายขยายเป็นบริเวณกว้าง จากนั้นเมื่อเวลา 09.11 น. วันที่ 30 กันยายน 2568 ได้รับรายงานว่ามีประชาชน 9 ชีวิตขอความช่วยเหลือค้างบนหลังคาทั้งเด็ก คนชรา ไปไหนไม่ได้ น้ำยังมาอย่างต่อเนื่อง !ตอนนี้สถานการณ์น้ำยังไม่ดีขึ้น ท่วมชั้น 1 แล้วที่บ้านนากล่ำ ตำบลน้ำไคร้ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ตัดสินใจหนีตายขึ้นอยู่บนหลังคาบ้าน สถานการณ์์น้ำขณะนี้ในพื้นที่อำเภอทองแสนขัน หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2  ปริมาณน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ   ระดับน้ำสูงประมาณ 1.5 - 2 เมตร โดยพื้นที่บริเวณหมู่ 2 น้ำกำลังไหลบ่าเข้าบ้านเรือนประชาชนและชุมชน  ซึ่งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ แจ้งข้อมูล พื้นที่อำเภอทองแสนขัน บริเวณ ถนนสาย ผักขวง-บ่อทอง และบ่อทอง-หนองกวาง รถเล็กสัญจรไม่ได้ เนื่องจากน้ำท่วมสูงนอกจากนั้นสถานการณ์น้ำท่วมถนน บริเวณ สะพานห้วยงาช้าง ถนนเส้นเขื่อนสิริกิติ์ บ้านห้วยนา ตำบลแสนตอ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์  สามแยกสักใหญ่ รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ครับประชาชนติดตามสถาณการณ์น้ำป่าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับรายงานว่าสถานการณ์น้ำของอำเภอน้ำปาด และอำเภอทองแสนขัน ฝนตกหนัก กว่าครั้งที่แล้ว ซึ่งมวลน้ำดังกล่าวจะลงพื้นที่อำเภอพิชัย  จึงขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ ดำเนินการดังนี้

         1 แจ้งประชาสัมพันธ์เตือนพี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะริมตลิ่งหรือพื้นที่ลาดเอียง ให้ทราบสถานการณ์ 

         2. เตรียมการขนย้ายผู้ป่วย กลุ่มเปราะบางที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ไปอยู่ที่ปลอดภัย และขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย

         3. หากคาดว่าบ้านเรือนอยู่ไม่ปลอดภัยให้ย้ายออกไปอยู่ที่ปลอดภัยก่อนจนกว่าสถานการณ์จะปกติ เพื่อป้องกันความสูญเสียด้านชีวิตและทรัพย์สิน

         4. เตรียมพื้นที่ปลอดภัย เช่น ศาลาวัด โรงเรียน สำหรับอพยพพี่น้องประชาชนไปอยู่ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน

          5. หากมีสถานการณ์ในพื้นที่ขอให้รายงานนายอำเภอ ปลัดอำเภอทราบอย่างต่อเนื่อง 

ขณะที่ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานภาค 3 ได้รับรายงานว่าในพื้นที่บ้านวังโป่งหมู่ 4​ อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ บริเวณ หัวสะพาน​คลองตรอน​ มีรถยนต์พร้อมคนขับถูกน้ำ​พัดหายไป 1 ร​าย​ และ มีเด็ก​ ติดอยู่ในบ้าน​ 5 คน​ ที่บ้านพักอาศัยของประชาชน 185/1 หมู่ที่ 6 บ้านร้องลึก ตำบลผักขวง อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ มีผู้สูงอายุเป็นคุณตาคุณยายอาศัยอยู่ภายในบ้านเพียงลำพัง 2 คน ซึ่งติดค้างอยู่ในบ้านพักที่ประสบอุทกภัยเวลานี้ ที่โรงเรียนบ้านนากล่ำ บ้านเลขที่ 94/12 หมู่ 2 ตำบลน้ำไคร้ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ มีบ้านที่ตั้งอยู่บริเวณข้างโรงเรียนบ้านนากล่ำ มีคนสูงอายุและผู้ป่วยติดค้างอยู่ในบ้านที่ชั้นที่ 2 ต้องการความช่วยเหลือ  เช่นเดียวกับที่โรงเรียนวังโปงดำนงวิทย์  มีเด็กและผู้สูงอายุที่ติดค้างอยู่ในบ้านพักอาศัยและจำเป็นต้องรับประทานยาประจำตัวด้วย สรุปเหตุการณ์ เมื่อ เวลา 11.00 น. แขวงทางหลวงอุตรดิตถ์ที่ 2 แจ้งถึงสถานการณ์น้ำท่วมผิวทาง สาย 117 กม.302+446  น้ำลดสู่สภาวะปกติ การจราจรผ่านได้ รวมถึงน้ำท่วมผิวทาง สาย 1045 กม.60+300  น้ำลดสู่สภาวะปกติ การจราจรผ่านได้ ส่วนเหตุดินสไลด์ สาย 1045  กม.48+900  อยู่ระหว่าดำเนินการ)การจราจร  ผ่านไม่ได้ และเสาไฟฟ้าล้มทับทาง~5 ต้น   สาย 1045 กม.51+225  อยู่ระหว่างดำเนินการ การจราจรผ่านไม่ได้  คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ช่วงเย็นวันนี้ และเมื่อเวลา 11.30 น.บริมาณน้ำป่าไหลทะลัก เข้าท่วม  ตำบลน้ำไคร้ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาณ เพิ่มสูงขึ้น ประชาชนหลายหมูบ้านได้รับผลกระทบล่าสุด มูลนิธิและหน่วยกู้ อาสาสมัครกู้ภัยอุตรดิตถ์ 285 ในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้นำเรือท้องแบนลงลุยกระแสน้ำฝ่าเข้าช่วยเหลือ  ประชาชน 9 ชีวิต ขอความช่วยเหลือค้างบนหลังคาทั้งเด็ก คนชรา ไปไหนไม่ได้ น้ำยังมาอย่างต่อเนื่อง !  ที่บ้านนากล่ำ ตำบลน้ำไคร้ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ 

ภาพข่าว- วีดีโอ -ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 3 ธีรพงศ์ นาคแนม (นกพิราบศูนย์ข่าว จังหวัดพิจิตร)  โทร 0831671688 รายงาน** คนรู้จักพัก ทว่าไม่รู้จักพอ ** จิตอาสาพัฒนา เราทำความดีด้วยหัวใจ....ร่วมใจกันพัฒนา….